นัดชี้ชะตาทีมชาติไทย ล่าตั๋วเข้ารอบ 3 คัดบอลโลก 2026 ต้องชนะ สิงคโปร์ สถานเดียว แต่เงื่อนไขต้องยิงกี่ลูกอยู่ที่อีกคู่ซึ่งเตะก่อน 1 ชม.ครึ่ง ลุ้นให้จีนไปเยือนแพ้เกาหลีใต้เท่านั้น และแพ้แบบมากที่สุดถึงเป็นผลดีต่อ “ช้างศึก” ด้าน “อิชิอิ” จัดเต็มสูบล่า 3 แต้ม วัดใจส่ง “ธีรศิลป์-ชนาธิป”ลงตัวจริงเลยหรือไม่ สถิติข่ม 5 นัดหลังแข้งไทยเก็บหมด คู่นี้เตะ 1 ทุ่มครึ่ง ที่ราชมังคลากีฬาสถาน ช่อง ไทยรัฐ HD32 ยิงสด
วิเคราะห์ฟุตบอล โลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง
กลุ่ม ซี นัดที่ 6
วันอังคารที่ 11 มิถุนายน 2567
เวลา : 19.30 น. ถ่ายทอดสดทาง : ไทยรัฐ HD32
สนาม : ราชมังคลากีฬาสถาน
ความพร้อมฝั่งเจ้าถิ่น “ช้างศึก” ที่มี “มาซาทาดะ อิชิอิ” คุมทัพ เกมล่าสุดเยือนเสมอ จีน 1-1 ทำให้เกมนี้ ไทยต้องชนะ สิงคโปร์ สถานเดียว และต้องไปลุ้นให้คู่ที่เตะก่อนในเวลา 18.00 น. จีน ไปเยือนแพ้ เกาหลีใต้ เท่านั้น หากจีนยันเสมอหรือถึงขั้นบุกชนะ ทีมชาติไทยจะร่วงตกรอบทันที โดยเงื่อนไข จีน แพ้ 0-1/ ไทยต้องชนะ 3-0, จีนแพ้ 0-2 / ไทยต้องชนะ 2-0, จีน แพ้ 0-3 ขึ้นไป / ไทยขอชนะแค่ลูกเดียวพอ
โดยเกมนี้เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น จะลงคุมทีมเจอชาติระดับอาเซียนเป็นครั้งแรก เตรียมจัดทัพชุดที่ดีสุดลงสนามเพื่อเก็บ 3 แต้มให้ได้ ในรายของ ปฏิวัติ คําไหม นายด่านมีหนึ่งไม่เจ็บมาก น่าจะลงเฝ้าเสาต่อได้ในเกมนี้ ส่วนในรายของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ และธีรศิลป์ แดงดา ที่เกมกับจีนมีชื่อเป็นสำรองและไม่ได้ถูกลงสนาม ต้องมาวัดใจว่า ‘อิชิอิ’ จะใช้งานในเกมนี้ตั้งแต่ 11 คนแรก หรือลงมาช่วยในครึ่งหลัง
สำหรับ 11 ตัวจริงทีมชาติไทย ที่คาดว่าจะลงสนามในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วย ปฏิวัติ คําไหม (ผู้รักษาประตู), กฤษดา กาแมน, สุพรรณ ทองสงค์, ศุภนันท์ บุรีรัตน์, ธีราทร บุญมาทัน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์, สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, ศุภชัย ใจเด็ด
ด้านทีมเยือนพลพรรค “ลอดช่อง” ที่มี “สึโตมุ โอกุระ” คุมทัพ เกมล่าสุดไปเยือนแพ้ เกาหลีใต้ 0-7 ทำให้ 5 นัดที่ผ่านมาเก็บได้แค่แต้มเดียว แถมเสียประตูให้คู่แข่งมากถึง 21 ประตู อีกทั้งตอนนี้พวกเขาถูกสื่อตัวเองวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักที่ผลงาน ทำให้การมาเยือนทีมชาติไทย พวกเขาต้องการเรียกศรัทธากลับคืนมา เพราะเจอทีมในระดับอาเซียนเช่นกัน คงไม่ยอมแพ้แบบเละเทะเหมือนเกมกับ “โสมขาว” แน่
โดยเกมนี้เฮดโค้ชชาวญี่ปุ่น วัย 57 ปี ยังพร้อมจัดเต็มส่งแข้งที่ดีที่สุดลงเล่น นำทัพโดย กัปตันทีมฮาริส ฮารูน, ฮัสซัน ซันนี่ มือกาวจอมเก๋าวัย 40 ปี, ซอง อุย-ยอง, ซาฟูวัน บาฮารูดิน รวมทั้งนักเตะที่ค้าแข้งอยู่ในไทยลีกอย่าง ฮาริส สจ๊วร์ต, ไรฮาน สจ๊วร์ต โดยมี อิคซาน ฟานดี้ หัวหอกที่เพิ่งต่อสัญญาอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไปอีก 3 ปี พร้อมลงประจำการล่าตาข่าย
สำหรับสถิติ 5 เกมหลังสุดที่ทั้งสองทีมพบกันปรากฏว่า ‘ช้างศึก’ ชนะรวด ประกอบด้วย ปี 2015 (อุ่นเครื่อง) ไทย ชนะ 2-0 (เหย้า), ปี 2016 (อาเซียนคัพ) ไทย ชนะ 1-0 (เหย้า), ปี 2018 (อาเซียนคัพ) ไทย ชนะ 3-0 (เหย้า), ปี 2021 (อาเซียนคัพ) ไทย ชนะ 2-0 (สิงคโปร์เจ้าภาพ) และปี 2023 (คัดบอลโลก 2026) ไทย ชนะ 3-1 (เยือน)
ทั้งนี้ เกมล่าสุดที่ ทีมชาติไทย ไปเยือนชนะ สิงคโปร์ 3-1 ทาง สุภโชค สารชาติ ยิงนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 ก่อนจะถูกสิงคโปร์ ตีเสมอนาทีที่ 41 จาก ชาวัล อันนัวร์ แต่ช่วงครึ่งหลัง ‘ช้างศึก’ มายิงได้ 2 ประตูรวดจากการเหมาคนเดียวของ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา นาทีที่ 66 กับนาทีที่ 87 และ 2 ลูกดังกล่าวเป็นการทำแอสซิสต์ของ ธีรศิลป์ แดงดา ที่ลงมาเป็นตัวสำรองในนาทีที่ 66 ด้วย
สถิติ 5 นัดที่ผ่านมาในคัดบอลโลก 2026 กลุ่ม ซี
ทีมชาติไทย
วันที่ 6 มิ.ย.67 – เสมอ จีน 1-1 (เยือน)
วันที่ 26 มี.ค.67 – แพ้ เกาหลีใต้ 0-3 (เหย้า)
วันที่ 21 มี.ค.67 – เสมอ เกาหลีใต้ 1-1 (เยือน)
วันที่ 21 พ.ย.66 – ชนะ สิงคโปร์ 3-1 (เยือน)
วันที่ 16 พ.ย.66 – แพ้ จีน 1-2 (เหย้า)
ทีมชาติสิงคโปร์
วันที่ 6 มิ.ย.67 – แพ้ เกาหลีใต้ 0-7 (เหย้า)
วันที่ 26 มี.ค.67 – แพ้ จีน 1-4 (เยือน)
วันที่ 21 มี.ค.67 – เสมอ จีน 2-2 (เหย้า)
วันที่ 21 พ.ย.66 – แพ้ ไทย 1-3 (เหย้า)
วันที่ 16 พ.ย.66 – แพ้ เกาหลีใต้ 0-5 (เยือน)
สถิติ 5 นัดหลังสุดที่พบกัน
วันที่ 21 พ.ย.66 – คัดบอลโลก 2026 โซนเอเชีย รอบสอง : สิงคโปร์ แพ้ ไทย 1-3
วันที่ 18 ธ.ค.64 – ชิงแชมป์อาเซียน 2020 ที่สิงคโปร์ : สิงคโปร์ แพ้ ไทย 0-2
วันที่ 25 พ.ย.61 – ชิงแชมป์อาเซียน 2018 รอบแบ่งกลุ่ม : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 3-0
วันที่ 22 พ.ย.59 – ชิงแชมป์อาเซียน 2016 รอบแบ่งกลุ่ม : ไทย ชนะ สิงคโปร์ 1-0
วันที่ 26 มี.ค.58 – อุ่นเครื่องฟีฟ่าเดย์ ที่ไทย – ไทย ชนะ สิงคโปร์ 2-0
ความน่าจะเป็นของเกม
– ทีมชาติไทย ไม่มีทางเลือกอื่น พวกเขาต้องชนะสถานเดียวเท่านั้น ที่สำคัญยิ่งยิงเยอะยิ่งดี และไปลุ้นผลต่างประตูได้เสียอีกคู่ ในกรณีที่จีนไปแพ้ เกาหลีใต้ แน่นอนโอกาสการเข้ารอบที่ 3 ของ ‘ช้างศึก’ ยังมีความหวังอยู่ แม้ต้องไปยืมจมูกคนอื่นหายใจช่วยก็ตาม ส่วนผู้มาเยือนสิงคโปร์ ที่ตกรอบไปแล้วแถมยังไม่ชนะใครเลยในรอบที่สอง สภาพทีมถือว่ายังไม่ค่อยดีนัก ดูแล้วน่าจะอาศัยการตั้งรับที่เหนียวแน่นให้มากที่สุด ทำให้รูปเกมคงอึดอัดแน่ในกรณีหากไทย ต้องการประตูเยอะ แต่ยังทำไม่ได้สักที งานนี้ต้องมาดูว่า มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือใหญ่ที่เจอกับทีมระดับอาเซียนครั้งแรกตั้งแต่เข้ามาคุมทีม จะให้ลูกทีมเจาะเกมรับ “ลอดช่อง” ยังไง แต่เชื่อว่าสุดท้าย “ช้างศึก” ดีกว่ามาก และจะเป็นฝ่ายเก็บชัยชนะในบ้านได้แน่นอน
ฟันธง ต่อ ทีมชาติไทย
ผลการแข่งขันที่คาด
ทีมชาติไทย ชนะ ทีมชาติสิงคโปร์ 4-0
